ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเปรียบเสมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ขาดไม่ได้แล้วสำหรับยุคสมัยนี้ ไม่ว่าอะไรก็สามารถทำได้ผ่านสมาร์ทโฟน ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ชิตแชทเมาท์มอยกับเพื่อน ใช้ถ่ายรูปเก๋ๆเก็บภาพความทรงจำ ดูหนังฟังเพลงเพลินๆ ใช้จดโน๊ตจดเลคเชอร์ เป็นออเกไนซ์เซอร์ส่วนตัว ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ แบบการโอนเงิน ซื้อกองทุนซื้อหุ้น และอื่นๆ อีกมากมายที่พูดกันได้ไม่หมด
โทรศัพท์สมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์ประจำตัวที่ขาดไม่ได้จริงๆค่ะ เมื่อเป็นปัจจัยที่สำคัญแบบนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องมีหล่อเลี้ยงมือถืออยู่ตลอดอย่าง “แบตเตอรี่” ก็ต้องรักษาไว้ให้เพียงพอต่อการใช้งานของเราด้วยค่ะ เพราะถ้าแบตหมดแล้วไซร้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆที่กล่าวมาก็ไม่สามารถทำได้ วันนี้พี่กล้วยแห่ง Event Banana และ ไอติมแห่ง SistaCafe ขอมาแชร์ทริคประหยัดแบตฯมือถือให้เพื่อนๆ ได้นำไปใช้กันค่ะ
1. ดูว่าแอปอะไรใช้แบตไปเท่าไหร่
ปัจจุบันนี้มือถือสามารถทำงานได้พร้อมกันหลายแอปพลิเคชัน การดู Battery Usage ทำให้เรารู้ว่าเราใช้แบตไปกับแอปฯใดบ้าง ซึ่งก็มีทั้งแอปฯที่เราใช้อยู่ และแอปฯที่เราไม่ใช้แล้ว ยิ่งเปิดแอปฯเยอะมือถือก็ทำงานหนักขึ้น การปิดแอปฯที่ไม่ได้ใช้ ก็เป็นการช่วยประหยัดแบตฯมือถืออีกทางหนึ่งiOS: Setting (การตั้งค่า) > Battery (แบตเตอรี่) > Battery Usage
รอประมวลผลสักครู่ จะขึ้นลิสต์การใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นมา
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/e070bd4-e1c8.jpg)
iOS
Android: Setting > Battery & Performance > Power Usage
**ชื่อหัวข้ออาจจะแตกต่างกันออกไปตามยี่ห้อโทรศัพท์
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/763edc5-4e6a.jpg)
Android
Tips: สามารถปิดแอปที่ไม่ได้ใช้งานแล้วแบบเร็วๆได้ที่ Task Manager ทั้ง Android และ iOS
2. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน
เมื่อถึงคราวคับขันที่แบตใกล้จะหมดแล้ว เหลือ 20% หรือน้อยกว่านั้น การเปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Power Saving Mode) ถือเป็นตัวช่วยที่ดีอย่างหนึ่ง โหมดนี้จะปิดฟังก์ชั่นการใช้งานบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น บลูทูธ ความสว่างจอ ช่วยประหยัดแบตได้เยอะทีเดียว![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/6fd6d81-7b2e.jpg)
Android: ดึง Notification Tab ลงมาแล้วกด Battery Saver
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/756023b-0586.jpg)
3. ตั้งเวลาปิดหน้าจออัตโนมัติ
หน้าจอเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่สูง จอยิ่งใหญ่ยิ่งกินไฟมาก การตั้งเวลาปิดหน้าจออัตโนมัติช่วยลดการกินแบตไปได้เยอะ มีให้เลือกตั้งแต่ 30 วิ, 1 นาที, 2 นาที![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/d234185-081c.png)
Android: Setting > Lock screen & Password > Sleep
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/b295523-cd85.jpg)
4. ปิด GPS และการระบุตำแหน่ง
เมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ GPS ก็ปิดทิ้งไป เพราะการระบุตำแหน่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่ลดลง ยิ่งเมื่อใช้ควบคู่กับแอปฯนำทางด้วยแล้ว แบตฯลดฮวบฮาบกันเลยทีเดียวiOS: Settings > Privacy > Location Services
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/6613883-45d9.jpg)
Android: Setting > Additional Settings > Privacy > Location > Location Access
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/002ad80-5543.jpg)
5. เปิดโหมด Auto Brightness
ความสว่างที่มาเกินความจำเป็นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แบตลดลงเร็ว จอยิ่งใหญ่แบตยิ่งลดเยอะ เปิด Auto Brightness ให้ระบบช่วยคำนวณปริมาณแสงที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมกันเถอะ![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/d302bf3-3902.png)
Android: Setting > Display > Brightness level > Automatic Brightness
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/7a00481-11c3.jpg)
6. ปิดการแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่น
ทุกครั้งที่เราโหลดแอปพลิเคชั่นมาใหม่ โดยปกติระบบจะตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อแจ้งข่าวสารต่างๆ ทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือนเราก็จะรับรู้ได้จากเสียงเตือน และหน้าจอที่สว่างขึ้นมา ซึ่งสองอย่างนีก็ต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่ ดังนั้นถ้าแอปฯไหนไม่จำเป็น เข้าไปปิดการแจ้งเตือนไว้ดีกว่านะ![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/0343830-67c2.jpg)
Android: Setting > Notifications & Status Bar
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/fc97a85-ca8e.jpg)
7. หมั่นอัพเดท Software
ทุกครั้งที่มีการอัพเดทซอฟต์แวร์ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ก็จะได้รับการอัพเกรดเพิ่มมาด้วย![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/53dbc74-0180.jpg)
Android: Setting > About phone > System update
![](https://eventbanana.blob.core.windows.net/blogcontainer/b51a64a-dc2b.jpg)
และ 7 ข้อที่กล่าวมา ก็คือวิธีที่ช่วยให้เราประหยัดแบตเตอรี่ได้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคืออย่าลืมรักษาคุณภาพของแบตเตอรี่ให้ดีอยู่เสมอ เช่น ไม่ใช้มือถือจนแบตหมดเกลี้ยงแล้วมาชาร์จใหม่ ไม่ชาร์จไปเล่นไป ไม่ทำให้เครื่องร้อน อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อมือถือที่รักจะได้อยู่กับเราไปนานๆเนอะ
ที่มา sistacafe.com