ชาวมิลเลนเนียลคือใคร ทำไมองค์กรต้องใช้ความสำคัญ?
ชาวเจนวายหรือที่เรามักเรียกกันว่าชาวมิลเลนเนียล คือคนวัย 21-37 ปี ที่เกิดช่วงปี 1981 ถึง 1997 เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะมาขับเคลื่อนองค์กร โดยธรรมชาติเเล้วชาวมิลเลนเนียลมีความมุ่งมั่นทะเยอทยานอยู่เต็มเปี่ยม เพียงเเต่อาจต้องการตามหางานที่ใช่ งานที่ตอบโจทย์ชีวิต บางคนเลยอดมองว่าพวกเราไม่ทนงาน ชอบเปลี่ยนงานบ่อย
จริงๆเเล้วชาวมิลเลนเนียลสำคัญมากต่อการเติบโตขององค์กรมาก นักวิชาการคาดว่าในอีก 5-6 ปีนี้ชาวมิลเลนเนียลจะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในสังคมและองค์กร เพราะงั้นถ้าองค์กรไหนไม่สามารถปรับตัวเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ไฟเเรงกลุ่มนี้ไว้ได้ ต่อไปเมื่อชาวเบบี้บูมเมอร์เกษียณตัวก็คงขาดคนขับเคลื่อนองค์กรต่อไป
เห็นเเบบนี้เเล้ว จะมองข้ามคนกลุ่มนี้ไปไม่ได้เลยใช่มั้ยล่ะ วันนี้ Event Banana เลยถือโอกาสยกตัวอย่างนิสัยพื้นฐานของชาวมิลเลนเนียล แถมด้วยเทคนิคง่ายๆที่ช่วยให้งานสัมมนาที่ชาวมิลเลนเนียลหลายคนมองว่าน่าเบื่อสุดๆกลายเป็นงานสัมมนาสุดปัง ที่นอกจากจะมีสาระเต็มยังได้ใจชาวมิลเลนเนียลไปเต็มๆ มาดูกันเลย
ชาวมิลเลนเนียลชอบอะไร?
1. “ชอบประสบการณ์เจ๋งๆ มากกว่าของชำร่วย”
ในขณะที่คนกลุ่ม babyboomerใช้เงินจับจ่ายสินค้าเพื่อความสุขเเละเพื่อความสะดวก ชาวมิลเลนเนียลให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์”เสียมากกว่า ฉะนั้นของชำร่วย กระเป๋า หรือหมวกที่มีโลโก้สัมมนาสักใบคงไม่ทำให้ประชุมน่าประทับใจขึ้นเท่าไหร่ ถ้าเป็นtalkเจ๋งๆ วิทยากรเยี่ยมๆ สถานที่จัดอีเวนท์สวยๆสิ รับรองว่าประทับใจสุดๆ
2. “ชอบเรียนรู้เเละพัฒนาตนเอง”
ชาวมิลเลนเนียลมีความทะเยอทยาน เพราะฉะนั้นถ้างานสัมมนา หรืองานประชุมช่วยให้ชาวมิลเลนเนียลได้พัฒนาทักษะใหม่ๆ เปิดโอกาสให้พบกับคนที่ให้เเรงบันดาลใจดีๆ เเถมเรื่องที่ประชุมยังที่น่าสนใจ รับรองว่าได้ใจคนกลุ่มนี้เเน่นอน
3. “ชอบเเชร์ให้โลกรู้”
ชาวมิลเลนเนียลชื่นชอบการเเชร์ ก็เเหมเราก็ต้องอยากเล่าให้คนอื่นฟังว่าประสบการณ์เข้าสัมมนาครั้งนี้พิเศษขนาดไหน ได้กระทบไหล่ผู้บริหารแนวหน้าขององค์กร ได้ฟังวิทยากรชื่อดัง แถมเรื่องที่ประชุมยังเป็นเทรนใหม่ ไม่ว่าใครก็อยากรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและสัมมนาสุดพิเศษอยู่เเล้วใช่ไหมล่ะ อีกอย่าง องค์กรที่จัดงานเองก็ได้ประโยชน์ ก็เเหม มีชาวมิลเลนเนียลพร้อมหยิบมือถือมาเเชะ เเชร์ลงโซเลซียลขนาดนี้ ได้โปรโมทไปเต็มๆ
4. “ชอบเรื่องประหลาดใจ”
ชาวมิลเลนเนียลชอบความแปลกใหม่ แทนที่จะจัดงานประชุมธรรมดา ลองจัดกิจกรรมสนุกๆคั้นเวลา กิจกรรมพิเศษก็เป็นเซอร์ไพรส์ที่น่าตื่นเต้นสุดๆ เเบบนี้ต้องระดมสมองหาไอเดียดีๆเเล้ว
ตัวอย่างเทคนิคที่ผู้จัดสัมมนาอาจใช้ได้เพื่อให้งานสัมมนาออกมาน่าสนใจ
-
แทนที่จะปล่อยให้การพักเบรกเป็นเวลาพักเปล่าๆ เราอาจจะเพิ่มลูกเล่นเล็กน้อยอย่างเกมง่ายๆ อย่าลืมว่าเรามีทั้งสมาร์ทโฟน อินเตอร์เนต เเละโปรเจคเตอร์ให้ใช้ประโยชน์
-
ถ้าต้องเเบ่งกลุ่มพูดคุยทำกิจกรรม เเทนที่จะใช้วิธีธรรมดาๆอย่างนับหนึ่งสองสาม ลองเปลี่ยนเป็นการเเบ่งกลุ่มแบบใหม่ เช่น กลุ่มหนึ่งสำหรับคนชอบกินช้อกโกเเลต กลุ่มสองไม่ชอบตื่นเช้า สิ่งที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องทางธุรกิจเสมอไปหรอกนะ การใช้เรื่องส่วนตัวเเบบนี้ช่วยให้คนในกลุ่มสนิทกันมากขึ้น ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นเสียด้วยซ้ำ
-
เเทนที่จะจัดโต๊ะสัมมนาเเบบ Classroom style เราสามารถจัดรูปแบบโต๊ะประชุมที่เอื้อให้เกิดการเเลกเปลี่ยนความเห็นได้ด้วยนะ (เว็บไซต์ของเรา Event Banana ระบุไว้ครบเลยว่าห้องรับรองเเต่ละห้องจัดโต๊ะเเบบไหนได้บ้าง) จัดสัมมนาครั้งต่อไปลองพิจารณาจัดโต๊ะเเบบใหม่ๆอย่าง Concert standing หรือ Cocktail ไม่แน่ว่าสัมมนาครั้งถัดไปจะพิเศษไม่เหมือนครั้งไหน)
-
ลองคุยกับสปอนเซอร์เพื่อหาไอเดียว้าวๆที่จะช่วยโปรโมทสปอนเซอร์ผู้สนับสนุน ในต่างประเทศก็มีก็ใช้กลยุทธ์นี้เหมือนกันนะ อย่างบริษัทผลิตกระดาษชำระเเห่งหนึ่งที่สนับสนุนการจัดสัมมนาก็ใช้ม้วนกระดาษชำระยี่ห้อตัวเองต่อเป็นชื่อเเบรนด์บริษัท ทำเป็นพื้นหลังตกเเต่งบริเวณสัมมนาได้สร้างสรรค์สุดๆ ชาวมิลเลนเนียลที่เข้าประชุมเลยไม่พลาดหยิบสมาร์โฟนออกมาถ่ายรูปเเชร์ในโลกโซเชียลช่วยโปรโมทงานสัมมนาเเละสปอนเซอร์ทันที
เห็นแบบนี้เเล้วพลาดไม่ได้เเล้ว ถ้างานสัมมนาครั้งหน้าชาวมิลเลนเนียมมาร่วมเยอะๆเห็นทีต้องลองจัดงานให้ตรงใจคนกลุ่มนี้ใช่มั้ยล่ะ นอกจากจะได้ใจคนรุ่นใหม่ในองค์กรเเล้วถ้าออกมาดีเผลอๆจะกลายเป็นtalk of the townในหมู่ชาวมิลเลนเนียมด้วยนะ เเบบนี้ชาวEvent Banana พลาดไม่ได้เเล้วลองหาสถานที่เจ๋งๆจัดงานสัมมนาดีกว่า บอกเลยว่าแต่ละทีบรรยากาศดีสุดๆ เเถมยังจัดโต๊ะได้หลายเเบบจะสัมมนาจริงจังหรือเพิ่ม session กิจกรรมก็พร้อม รวมมาให้แล้ว "สถานที่จัดสัมมนามาแรงกรุงเทพฯ" หรือใครกำลังมองหาไอเดียจัดประชุมเเบบดีต่อใจ ไม่น่าเบื่อ ลองดู 5 ไอเดียเปลี่ยนการประชุมน่าเบื่อให้กลายเป็น Happy Meeting
เครดิตจาก : http://www.meetingsnet.com/event-design-ideas/9-effective-ways-engage-millennials-your-events