สวัสดีค่ะ รู้กันไหมเอ่ยว่า การจัดโต๊ะ ห้องสัมมนา หรือ ห้องประชุม มีรูปแบบการจัดโต๊ะใน ห้องประชุม ที่หลากหลายมาก จนบางทีพาพี่กล้วยงงไปด้วย เวลาไปหาสถานที่จัดงานต่างๆ Sales มักจะถามว่าจัดโต๊ะแบบ Classroom, Theater, Banquet ดีคะ?? ตึง! งงค่ะ! คนที่รู้หรือมีประสบการณ์ก็จะเข้าใจและเลือกได้ว่าจะจัด ห้องประชุม แบบไหน แต่คนที่ไม่รู้หรือนึกภาพไม่ออกก็งงไปตาม ๆ กัน
วันนี้พี่กล้วยเลยถือโอกาสรวบตึง รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดวางรูปแบบ ห้องสัมมนา และ ห้องประชุม ซะเลยซึ่งพี่กล้วยเชื่อว่า ใครหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าที่จริงแล้วไม่ได้มีแต่การ จัดห้องสัมมนา หรือ ประชุม แบบ Classroom และ Theater เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายแบบที่ให้ชาว Event Banana ได้เลือก เอาแบบให้ตรงตามความเหมาะสมเผื่อเป็นความรู้สำหรับใครหลายๆคนที่กำลังคิดว่า เอ๊ะ! จัดห้องยังไงดีน้า เริ่มเลยดีกว่า อย่าให้เสียเวลา ไปดูกันเลยค่ะ
แบบแรก แบบที่ใครหลาย ๆ คน นิยมชมชอบ ฮิตเสียจริง เกือบ จะทุกการ ประชุม สัมมนา เรียกได้ว่าเป็นแบบมาตรฐานสำหรับการจัดสัมมนาเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ
1. Theater
การจัดห้องประชุมแบบ Theater คล้ายกับการจัดแบบโรงละครหรือโรงหนัง เป็นการจัดห้องประชุมแบบพื้นฐานใช้ในงานสัมมนา งานจัดอบรม หรือแม้แต่งานแต่งงานประเภทงานหมั้น งานพิธี การจัดห้องประชุมแบบนี้เหมาะสำหรับงานฝึกอบรมแบบบรรยายที่เน้นเนื้อหาที่มีผู้เข้าฟังมาก หรืองานแถลงข่าว หรืองานหมั้น งานที่ต้องการให้ผู้ร่วมงานสนใจเพียงจุดเดียว ไม่มีกิจกรรมอื่นใดนอกจากการฟังผู้พูดบนเวที
ข้อดีของการจัดห้องประชุมแบบ Theater คือ ผู้อบรมหรือผู้จัดงานจะเป็นจุดสนใจเพียงจุดเดียว และยังเป็นการใช้พื้นที่ในห้องประชุมได้อย่างคุ้มค่า สามารถวางเก้าอี้ได้มากกว่าการจัดแบบอื่นๆ นอกจากนั้นการจัดแบบ Theater ยังมีลูกเล่นให้ผู้จัดงานเลือกอีก นั่นก็คือ การไต่ระดับของพื้นขึ้นไปนั้นเอง ถ้าทุกคนนึกไม่ออก ให้ลองนึกถึง โรงหนัง การไต่ระดับพื้นที่พี่กล้วยกำลังพูดคือแบบนั้นเลยค้า แต่หากผู้เข้าอบรมมีจำนวนมาก อาจจะต้องเลือกสถานที่ ที่รองรับ ไม่ให้เล็กหรือพอดีเกินไปจนทำให้ผู้เข้าอบรบรู้สึกว่าอึดอัด ไม่อย่างนั้นจะหาว่าพี่กล้วยไม่เตือนน้า
2. Classroom
เห็นได้ว่าการจัดห้องประชุมแบบ Classroom คล้ายกับการจัดห้องประชุมแบบ Theater มาก แตกต่างกันที่ แบบ Classroom มีโต๊ะเพิ่มขึ้นมา และโดยส่วนมากจะมีปากกาพร้อมกับกระดาษ ให้ผู้เข้าอบรมได้จดโน๊ตบันทึก พร้อมทั้งมีน้ำดื่มและลูกอมเอาไว้ให้ผู้เข้าอบรมได้กินแก้ง่วงอีกด้วย ข้อดีของการจัดห้องประชุมแบบ Classroom ก็คือ ผู้อบรมจะเป็นจุดสนใจเพียงคนเดียว เหมาะสำหรับงานสัมมนาที่มีการจดบันทึกข้อมูล หรือการใช้คอมพิวเตอร์/แล็ปท๊อป ประกอบการอบรม แต่การจัดโต๊ะแบบ Classroom อาจจะต้องใช้พื้นที่มากพอสมควรเทียบกับแบบ Theater ยังไงชาว Event Banana ก็ดูจำนวนคนและขนาดของห้องด้วยนะคะ
3. Boardroom
การจัดห้องแบบ Boardroom หรือที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะเรียกว่า การจัดแบบ Conference เป็นการจัดห้องประชุมที่เหมาะสำหรับการประชุมที่มีการระดมความคิด ถกเถียง หรือเน้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการประชุม ส่วนใหญ่แล้วการจัดโต๊ะประชุมแบบนี้มักพบเห็นได้ทั่วไปตามบริษัทต่าง ๆ โดยจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมไม่มากนัก ส่วนมากไม่เกิน 15-20 คนตามโรงแรมต่าง ๆ มักจะมีห้องประชุมขนาดเล็กสำหรับจัด Boardroom meeting ซึ่งลูกค้ามักเป็นผู้บริหารองค์กรหรือนักธุรกิจที่ต้องการนัดคุยแบบส่วนตัวและเป็นทางการหน่อย ข้อดีของการจัดโต๊ะแบบนี้คือ ทุกคนจะรู้สึกว่ามีส่วนร่วมในการประชุมมากยิ่งขึ้น
4. U-Shape
การจัดแบบ U-shape เป็นการจัดโต๊ะคล้ายรูปตัว U เหมาะสำหรับผู้บรรยายที่อยากจะใกล้ชิดกับผู้ฟัง แบบ ถาม-ตอบ เพราะการจัดโต๊ะแบบลักษณะตัว U ผู้บรรยายสามารถเดินเข้าไปหาผู้ฟังและสอบถามพูดคุยได้อย่างทั่วถึง การจัดโต๊ะแบบ U–Shape เหมาะสำหรับการจัดประชุมแบบกลุ่มคนขนาดใหญ่ สามารถซ้อนโต๊ะได้อย่างน้อย 2 ชั้น และสามารถจุคนได้มากกว่าแบบ U-Shape ชั้นเดียว แถมยังมีพื้นที่ตรงกลางไว้สามารถทำกิจกรรมได้อีกด้วย แต่พี่กล้วยขอแนะนำ การจัดโต๊ะแบบ U-Shape ไม่ควรซ้อนเกิน 2-3 ชั้นเพราะผู้บรรยายอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง และแถวที่ซ้อนด้านหลังอาจจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
5. Banquet
การจัดโต๊ะแบบ Banquet หรือภาษาบ้าน ๆ เรียกง่าย ๆ ก็คือ โต๊ะจีนนั่นเอง ซึ่งเป็นการจัดแบบการใช้โต๊ะกลมแล้วคลุมผ้าสีต่างๆ การจัดโต๊ะแบบนี้มักพบในงานจัดเลี้ยง งานสังสรรค์หรือแม้แต่งานแต่งงานที่นิยมมาก ข้อดีของการจัดโต๊ะแบบ Banquet คือได้พูดคุย สังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเต็มที่ และข้อเสียคือความยากในการจัดคนลงโต๊ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วการจัดโต๊ะจีน มักมีการระบุแขกที่นั่งโต๊ะอย่างชัดเจน ถ้าถึงวันงานแล้ว แขกยกเลิกหรือไม่มาตามนัดหมาย มันก็จะกลายเป็นโต๊ะว่างทันที แต่พี่กล้วยจะบอกว่า การจัดโต๊ะกลม ๆ แบบนี้ไม่ควรจัดเกินโต๊ะละ 8-10 คน เพราะผู้ร่วมงานอาจจะรู้สึกอึดอัดได้ งานอบรมสัมมนาก็มีการจัดแบบ Banquet อยู่บ้าง ในกรณีที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีการจับกลุ่มเพื่อสนทนาหรือทำเวิร์คชอป เป็นต้น
มาถึงการจัดแบบสุดท้าย เป็นการจัดที่สบายผู้จัดงานแต่ลำบากแขกที่สุด 555555
พอนึกกันออกไหมคะ นั่นแหละ!! มันคือการจัดแบบ Cocktail
6. Cocktail
การจัดแบบ Cocktail ถือได้ว่าได้รับความนิยมอีกเช่นกัน เพราะมันง่ายและสะดวกสบายสำหรับผู้จัดงานแต่ผู้ร่วมงานอาจจะมีเมื่อยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่นะคะ เพราะในเมื่อแต่งตัวสวย ๆ หล่อ ๆ มางาน ต้องใช้ชุดให้คุ้ม ในเมื่อที่ผู้จัดงานไม่มีโต๊ะให้ เราก็เดินวนไปค่ะ เดินให้พอกินให้อิ่มไปเลย แล้วยืนสวย ๆ อย่าได้แคร์ค่ะ ข้อดีของการจัดแบบ Cocktail คือ สามารถจุคนได้มากกว่าแบบอื่น ๆ การจัดแบบ Cocktail มักจะเหมาะกับการจัดปาร์ตี้ริมสระ ชิล ๆ เก๋ ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับรูปแบบการจัดโต๊ะประชุม พอจะเป็นแนวทางให้ชาว Event Banana ได้บ้างไหมเอ่ย แต่อย่าลืมนะทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานที่ และรูปแบบของการจัดงานแต่ละงานด้วย ที่สำคัญอย่าลืมว่าขนาดของห้อง มีผลต่อจำนวนของแขกผู้ร่วมงานและการเลือกจัดโต๊ะในรูปแบบต่างๆด้วยนะคะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะจัดงานประชุม จัดสัมมนาหรืองานเลี้ยงต่างๆนะคะ ถ้าอยากหาห้องประชุม สัมมนา ปาร์ตี้ หรือจัดงานเปิดตัวสินค้าต่างๆ ค้นหาผ่าน EventBanana.com ได้นะคะ ค้นหาสถานที่ถูกใจ ง่าย เร็ว ที่สำคัญฟรีด้วยค่ะ บทความหน้า หากอยากให้พี่กล้วยเขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไร สามารถแนะนำได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ