“ทุกหน้าที่คือฮีโร่” บุคลากรในโรงพยาบาลที่เราไม่อยากให้คุณลืม

“ฮีโร่ผู้เสียสละ ทำงานหนัก เสี่ยงชีวิต และต้องอยู่ห่างจากครอบครัว

เพื่อปกป้องพวกเราให้ปลอดภัยจากโควิด-19

เราอาจนึกถึงแต่คุณหมอ พยาบาล หรือเภสัชกรเท่านั้น

แต่โครงการ Food for Heroes ไม่อยากให้ทุกคนหลงลืมบุคลากรอื่นๆ

ฮีโร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในฝ่ายต่างๆ ของโรงพยาบาล ที่ต่างก็ทำงานหนัก

และยังต้องการกำลังใจ จนกว่าประเทศไทยจะพ้นภัยโควิด-19”

เข้าสู่เฟสที่ 2 ของโครงการ Food for Heroes แล้วนะคะ ในเดือนพฤษภาคมนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดน้อยลงมาก ทำให้ผู้คนเริ่มลดความสนใจในการช่วยเหลือโรงพยาบาลต่างๆ เพราะเข้าใจว่างานในโรงพยาบาลน่าจะลดลงแล้ว แต่ในความเป็นจริง บุคลากรทุกฝ่ายยังต้องทำงานหนักกันเช่นเคย เพราะหากยอดผู้ติดเชื้อยังไม่เท่ากับศูนย์ ทุกโรงพยาบาลก็ยังต้องเฝ้าระวังกันอย่างเคร่งครัด 

โครงการ Food for Heroes Phase 2 จึงมุ่งมั่นเดินหน้าจัดส่งอาหารเป็นกำลังใจให้โรงพยาบาลต่อไป ด้วยสมาชิกโรงพยาบาลถึง 8 แห่งทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โรงพยาบาลปทุมธานี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเราตั้งเป้าจัดส่งอาหารให้อย่างต่อเนื่องรวม 4,500 กล่องภายในเดือนพฤษภาคมนี้ 

หากอยากเป็นกำลังใจให้บุคลากรโรงพยาบาล เพียงร่วมสมทบทุนส่งข้าวกล่องแทนใจให้พวกเขาผ่านเว็บไซต์ Taejai.com/th/d/foodforheroes/ เราเชื่อว่าอาหารที่ดี สะอาด มีคุณภาพ จะเป็นกำลังใจสำคัญที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยลดภาระเรื่องการหาซื้ออาหาร ลดค่าใช้จ่าย และสร้างรอยยิ้มในช่วงเวลายากลำบากนี้ได้อย่างแน่นอน

แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร
 

บุคลากรทางการแพทย์ต้องรับภาระงานจากโควิด-19 โดยตรง ถึงแม้บางท่านอาจจะคิดว่าแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ไม่น่าจะประสบปัญหาในการหาซื้ออาหารทาน แต่ด้วยงานที่หนัก หรือการต้องกักตัว ทำให้หลายมื้อพวกเขาไม่มีเวลาในการหาอาหารที่มีคุณภาพเพียงพอได้ การจัดส่งอาหารให้บุคลากรทางการแพทย์จึงถือเป็นกำลังใจ และการอำนวยความสะดวกให้ฮีโร่เหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
 

พนักงานรักษาความสะอาด และพนักงานซักรีด
 

นักรบคนสำคัญผู้ดูแลบุคลากรคนอื่นๆ และผู้ป่วยให้ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ถูกสุขอนามัยอยู่เสมอ พวกเขาเหล่านี้ต้องเป็นด่านหน้ารับมือกับขยะติดเชื้อ สิ่งปฏิกูลต่างๆ และยังต้องทำงานหนักขึ้นด้วยมาตรการที่ต้องเคร่งครัดขึ้นนั่นเอง นอกจากพี่ๆแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาดแล้ว ก็ยังรวมไปถึงพี่ๆฝ่ายซักรีด ที่ต้องสัมผัสกับเสื้อผ้าเครื่องนอนของผู้ป่วยที่นับว่ามีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เราขอยกย่องให้พี่ๆเหล่านี้เป็นนักรบแถวหน้าของโรงพยาบาลเลยค่ะ
 

พนักงานเวรเปล และพนักงานคัดกรองผู้ป่วย
 

อีกตำแหน่งด่านหน้า ที่ต้องสัมผัส พูดคุยกับผู้ป่วยเป็นคนแรกๆเลยก็ว่าได้ พนักงานเวรเปลต้องเคลื่อนย้ายและช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ส่วนพนักงานฝ่ายคัดกรองก็ต้องพบปะกับผู้ป่วยทุกคนก่อนจะส่งตัวต่อไป โดยบางครั้งไม่อาจทราบได้ว่าผู้ป่วยท่านใดเป็นโควิดหรือไม่ เพราะผู้ป่วยอาจเป็นโรคอื่นหรือประสบอุบัติเหตุมาแต่มีเชื้อโควิดอยู่โดยยังไม่แสดงอาการ นี่จึงเป็นงานที่ความเสี่ยงสูงมาก เราจึงอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้พวกพี่เขาเยอะๆค่ะ
 

พนักงานขับรถพยาบาล
 

นอกจากจะต้องใกล้ชิด อยู่ในรถซึ่งเป็นพื้นที่ปิดร่วมกับผู้ป่วยแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่างานขับรถพยาบาลยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงบนท้องถนน และเป็นงานที่มีความกดดันสูง ยิ่งในภาวะนี้งานยิ่งหนักและเต็มไปด้วยความกังวล การส่งข้าวกล่องให้พวกพี่ๆเป็นประจำจะเป็นแรงใจ และยังแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพวกเขาได้ด้วยค่ะ
 

พนักงานรักษาความปลอดภัย
 

ไหนจะโควิด ไหนจะฝุ่นและอากาศร้อน สภาวะแวดล้อมแบบนี้พวกเราอยากจะอยู่แต่ในบ้าน แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลต้องเผชิญกับภาวะทั้งหมดนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติได้รับความปลอดภัยและสะดวกสบาย ถึงแม้อาจจะไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากนัก แต่ก็ถือเป็นด่านแรกที่ต้องพบกับคนมากหน้าหลายตา โดยพวกเขาไม่อาจทราบได้เลยค่ะว่าใครเป็นผู้ติดเชื้อ
 

พนักงานการเงิน หรือฝ่ายบริการผู้ป่วยอื่นๆ
 

เป็นอีกฝ่ายที่หลายคนคงหลงลืม เพราะคิดว่าไม่ได้สัมผัสกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด แต่พวกเขาเหล่านี้ต้องพบกับงานหนักเช่นกัน และอย่างที่บอกว่าผู้ป่วยทั่วไปหรือญาติอาจมีโอกาสเป็นโควิดโดยยังไม่แสดงอาการ ซึ่งพนักงานเหล่านี้ต้องพูดคุยกับคนมากมายทุกวัน จึงเป็นฮีโร่อีกฝ่ายที่เราไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญค่ะ
 

นอกจากบุคลากรตำแหน่งต่างๆที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพนักงานอีกหลายฝ่ายในโรงพยาบาลที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยง และโครงการ Food for Heroes ของเราเห็นความสำคัญ โดยเราดำเนินการจัดส่งอาหารให้ตามจำนวนที่โรงพยาบาลต้องการจริงอย่างสม่ำเสมอค่ะ

Food for Heroes ยังต้องการแรงสนับสนุนจากทุกท่าน ด้วยยอดบริจาคคนละเล็กละน้อย ร่วมแรงกันเราจะสามารถส่งกำลังใจให้บุคลากรได้กว่า 1,000 คน โดยทาง Event Banana จะเป็นผู้สมทบทุนค่าขนส่งเองทั้งหมด

นอกจากจะได้ช่วยเหลือบุคลากรทั้งหลายเหล่านี้แล้ว โครงการยังสนับสนุนการกระจายรายได้ ด้วยการสั่งอาหารจากผู้ให้บริการอาหารรายย่อยหลายสิบรายทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งต่างก็กำลังประสบปัญหาขาดรายได้จากวิกฤตโควิด-19 บริจาคกันคนละนิด เราจะได้ส่งต่อกำลังใจ ให้หลายต่อหลายคนสู้ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันค่ะ